ไอศกรีมไม่ใช่แค่ของหวาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยที่เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปพร้อมสังคม ในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ ตลาดไอศกรีมไทยจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และธุรกิจไอศกรีมโฮมเมดจะคว้าโอกาสทองนี้ไว้ได้อย่างไร Miss Icecream ขอพาคุณเจาะลึกเทรนด์สำคัญ กลุ่มเป้าหมาย และกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจไอศกรีมของคุณเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน
บทคัดย่อ
บทความนี้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดไอศกรีมไทยในปัจจุบันและแนวโน้มในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยแบ่งผู้บริโภคออกเป็น 3 กลุ่มตามกำลังซื้อ วิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่ส่งผลต่อการบริโภค และเน้นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจไอศกรีมโฮมเมดที่สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดระดับกลางถึงสูง พร้อมเสนอแนะกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
คำสำคัญ: ไอศกรีมโฮมเมด, ตลาดไอศกรีมไทย, กลยุทธ์ธุรกิจ, พฤติกรรมผู้บริโภค, นวัตกรรมไอศกรีม
ไอศกรีมจัดเป็นของหวานแช่แข็งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย ด้วยสภาพภูมิอากาศที่ร้อนตลอดปี และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ตลาดไอศกรีมโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร พัทยา-ชลบุรี เชียงใหม่ และสงขลา มีความหลากหลายสูงและมีการแข่งขันที่รุนแรง (Euromonitor International, 2024) ผู้ประกอบการที่ต้องการเติบโตจำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างละเอียดเพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสม
กลุ่มนี้มองไอศกรีมเป็นของหวานที่เน้นราคาถูกและเข้าถึงง่าย เช่น ไอศกรีมแท่งหรือหวานเย็นราคาต่ำจากรถเข็นหรือร้านสะดวกซื้อ ราคาเฉลี่ย 10-30 บาท (SCB EIC, 2023)
กลุ่มนี้เน้นความคุ้มค่าและคุณภาพ รสนิยมการบริโภคขยับสู่ไอศกรีมสกู๊ปหรือเจลาโตคุณภาพปานกลาง นิยมร้านที่มีชื่อเสียงหรือแบรนด์พรีเมียมในซูเปอร์มาร์เก็ต ราคาเฉลี่ย 40-150 บาท (Nielsen Thailand, 2023)
กลุ่มนี้เน้นคุณภาพสูงและประสบการณ์พิเศษ นิยมวัตถุดิบชั้นเลิศ แบรนด์ระดับโลก ไอศกรีมที่มีส่วนผสมพิเศษ เช่น ทรัฟเฟิล ทองคำเปลว และนิยมบริโภคในร้านอาหารหรูหรือร้านเฉพาะทาง ราคาเฉลี่ย 150-500 บาทขึ้นไป (Mintel Group, 2023)
แนวโน้มสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดไอศกรีมในอนาคต ได้แก่ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และเทรนด์สุขภาพที่มาแรง ทำให้แต่ละกลุ่มผู้บริโภคมีการปรับตัวแตกต่างกัน (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2567)
กลุ่มกำลังซื้อต่ำ: อาจลดปริมาณหรือความถี่ในการซื้อเนื่องจากราคาสินค้าสูงขึ้น ช่วงราคาคาดการณ์: 15-40 บาท
กลุ่มกำลังซื้อปานกลาง: มีความระมัดระวังในการบริโภค เน้นไอศกรีมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและราคาคุ้มค่า ช่วงราคาคาดการณ์: 60-200 บาท
กลุ่มกำลังซื้อสูง: ยังคงเน้นประสบการณ์และคุณภาพระดับพรีเมียมมากขึ้น ช่วงราคาคาดการณ์: 180-600 บาทขึ้นไป
(ราคาที่แสดง ไม่ได้หมายถึงราคาต่อสคูปไอศกรีม แต่หมายถึงราคาที่ผู้บริโภคในกลุ่มตลาดแต่ละกลุ่มมีกำลังซื้อ ราคาแพง ๆ อาจจะเป็นไอศกรีมถ้วยที่มีการตกแต่งและมีหลายสคูปในถ้วยค่ะ)
ธุรกิจไอศกรีมโฮมเมดมีโอกาสเติบโตอย่างมากในกลุ่มกำลังซื้อปานกลางถึงสูง โดยสามารถใช้กลยุทธ์ดังนี้:
คุณภาพที่จับต้องได้: การเลือกวัตถุดิบคุณภาพสูงและควบคุมมาตรฐานการผลิต
ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์: สร้างรสชาติที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือรสชาติแบบไทยๆ
ตอบโจทย์สุขภาพ: ควบคุมปริมาณน้ำตาล ไขมันต่ำ หรือสูตรวีแกน/Plant-based
สร้างเรื่องราวแบรนด์: ถ่ายทอดที่มาและเรื่องราวการผลิตที่สร้างความผูกพันกับผู้บริโภค
กลยุทธ์การตั้งราคา: ตั้งราคาให้สมเหตุสมผลและสะท้อนถึงคุณภาพที่ผู้บริโภคยอมรับได้
ช่องทางการจำหน่ายที่เหมาะสม: เริ่มต้นผ่านช่องทางออนไลน์และตลาดเฉพาะกลุ่ม
ตลาดไอศกรีมไทยในช่วง พ.ศ. 2568-2573 มีความท้าทายแต่ก็เต็มไปด้วยโอกาส โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจไอศกรีมโฮมเมดที่สามารถเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคและวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
Euromonitor International. (2024). Thailand Ice Cream Market Report.
Mintel Group. (2023). Premium Ice Cream Trends in Asia.
Nielsen Thailand. (2023). Consumer Behavior towards Ice Cream in Urban Thailand.
SCB EIC. (2023). Thailand’s Consumer Spending Analysis.
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2567). รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจไทย พ.ศ. 2568.
ตลาดไอศกรีมที่เปลี่ยนแปลงไปคือโอกาสของผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์และความคิดสร้างสรรค์ หากคุณสนใจเริ่มต้นธุรกิจไอศกรีมโฮมเมดหรืออยากพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่ Miss Icecream พร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ พร้อมสนับสนุนคุณในทุกขั้นตอน ติดต่อเราได้เลยวันนี้!
ทีมงาน Miss Icecream
พ.ค. 2568
หน้าที่เข้าชม | 1,163,675 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 มิ.ย. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 22 ต.ค. 2568 |