แนวทางการเลือกเบสให้เหมาะกับผลไม้ที่ต้องการ

มีลูกศิษย์ถามเข้ามาเป็นระยะ ๆ ว่า ผลไม้โน้น ผลไม้นี้ จับคู่กับเบสอะไรดี พรหล้าเลยทำสรุปแนวทางเป็นหลักการในการพิจารณาจับคู่ผลไม้กับเบสไอศกรีมต่าง ๆ ไว้ให้ โดยเน้นที่การดึงคุณสมบัติของผลไม้และเบสไอศกรีมให้ออกมาเสริมกันให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และรสชาติที่ลงตัวค่ะ

หลักการพื้นฐานในการเลือกเบสไอศกรีมสำหรับผลไม้

1. พิจารณาลักษณะและรสชาติของผลไม้ (Fruit Characteristic):

• ผลไม้ที่มีรสหวานมัน (Creamy Fruit) เช่น ทุเรียน, อะโวคาโด ควรจับคู่กับเบสที่มีไขมันสูงและเนื้อสัมผัสครีมมี่ เช่น เบสนม, เบสกะทิ

• ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวหวาน สดชื่น (Tangy & Sweet Fruit) เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้, สับปะรด เหมาะกับเบสที่เน้นความสดชื่น เช่น เบสโยเกิร์ต, เบสเชอร์เบท, เบสซอร์เบท์

• ผลไม้ที่มีรสหวานอ่อนๆ แต่กลิ่นชัด (Fragrant & Mildly Sweet Fruit) เช่น ลิ้นจี่, ลำไย, มังคุด เหมาะกับเบสที่เน้นรสผลไม้แท้ๆ ไม่กลบกลิ่น เช่น เบสซอร์เบท์, เบสเชอร์เบท

2. พิจารณาลักษณะเนื้อสัมผัสที่ต้องการ (Desired Texture):

• เนื้อสัมผัสครีมมี่ นุ่มนวล (Creamy Texture) เลือกใช้ เบสนม หรือ เบสกะทิ

• เนื้อสัมผัสบางเบา (Light Texture) เหมาะกับผลไม้ที่ต้องการให้รสชาติเด่นชัด เลือกใช้ เบสเชอร์เบท หรือ เบสซอร์เบท์

• เนื้อสัมผัสกลางๆ (Balanced Texture) สามารถเลือกใช้ เบสโยเกิร์ต, เบสนมแบบลดไขมันหรือเบสกะทิแบบลดไขมัน หรือเบสเชอร์เบทที่ใส่นมและครีมได้ดี เพราะอยู่ตรงกลางของความครีมมี่และความสดชื่น

3. พิจารณาความเข้มข้นของรสชาติผลไม้ (Intensity of Fruit Flavor):

• ผลไม้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นแรง (Strong Flavor Fruits) เช่น ทุเรียน ควรเลือกใช้เบสที่สามารถกลบรสที่รุนแรงลงมาเล็กน้อยแต่ยังคงความกลมกล่อมไว้ เช่น เบสนม หรือ เบสกะทิ

• ผลไม้ที่มีกลิ่นรสอ่อนและละเอียดอ่อน (Delicate Flavor Fruits) เช่น ลิ้นจี่, มังคุด เลือกเบสที่ไม่กลบรสชาติ แต่จะเน้นและเสริมรส เช่น เบสซอร์เบท์ หรือ เบสเชอร์เบท

4. พิจารณาความเข้ากันของกลิ่น (Flavor Compatibility):

• เบสนม จะเหมาะกับกลิ่นที่เข้ากันได้ดีในอาหารฝรั่ง หรือผลไม้ที่กลิ่นเข้ม ๆ หนัก ๆ เช่น ทุเรียน, อะโวคาโด

• เบสกะทิ เหมาะกับผลไม้ที่มีความไทย กลิ่นรสแบบ Tropical Fruits หรือมีรสชาติครีมมี่ เช่น มะม่วง, ทุเรียน
  
  
• เบสโยเกิร์ต เหมาะกับผลไม้ที่มีรสหวานอมเปรี้ยว หรือเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นรสที่ชัดเจนหรือกลาง ๆ เช่นมะม่วง, สัปปะรด

• เบสนมถั่วเหลือง เหมาะกับผลไม้ที่เข้ากับถั่วได้ดี แต่ต้องระวังการกลบรสของผลไม้ (เหมาะเฉพาะผลไม้รสเข้มชัดเจนเท่านั้น)

• เบสเชอร์เบท เหมาะสำหรับผลไม้ที่มีทั้งหวานและเปรี้ยวปนกัน เพื่อสร้างความสดชื่น เช่น มะม่วง, ลิ้นจี่, มะยงชิด

• เบสซอร์เบท์ เหมาะกับผลไม้รสชาติหวานฉ่ำหรือหวานอมเปรี้ยวที่ต้องการเน้นรสชาติดั้งเดิมของผลไม้เป็นหลัก เช่น ลำไย, ลิ้นจี่, มังคุด, มะยงชิด

5. พิจารณาการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า (Customer Preference):

• ลูกค้าทั่วไป เน้นครีมมี่ อร่อย เข้มข้นเหมาะกับ เบสนม หรือ เบสกะทิ เราแค่ต้องหาผลไม้ที่เหมาะกับเบสนมหรือกะทิมาจับคู่กันค่ะ

• ลูกค้าที่เน้นสุขภาพ หรือกลุ่ม Vegan/Plant-based ควรเลือกใช้ เบสซอร์เบท์ หรือ ซอร์เบท์ แบบ No added sugar (NAS), เบสนมถั่วเหลือง หรือ เบสกะทิที่ไขมันไม่มาก (Plant-based) หรือขยับมาเป็นไขมันน้อยแต่ยังมีนมอยู่บ้างเช่นเบสโยเกิร์ตก็ได้ค่ะ

• ลูกค้าที่ชอบความสดชื่น เย็นสบาย ไม่หนักท้อง แบบเบา ๆ คล้ายร้อน เหมาะกับ เบสเชอร์เบท หรือ เบสซอร์เบท์ 

ตัวอย่างการพิจารณาผลไม้ไทยบางชนิด

📌 สรุปแนวทางปฏิบัติง่าย ๆ :

1. วิเคราะห์รสชาติและลักษณะผลไม้ก่อน

2. เลือกเบสที่ส่งเสริมรสชาติเด่นชัดของผลไม้

3. พิจารณาเนื้อสัมผัสตามความเหมาะสม

4. คำนึงถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในการทำตลาด

5. ทดลองผสมก่อนเพื่อหาจุดที่ลงตัวที่สุดสำหรับแต่ละผลไม้

หลักการเหล่านี้จะช่วยให้ไอศกรีมของคุณประสบความสำเร็จ ตรงใจลูกค้า และขายดี ปัง ๆ ตลอดทั้งปีอย่างแน่นอนค่ะ 🍦✨

โดย พรหล้า ขาวเธียร
09/05/2025
บจ. มิสไอศกรีม
Expertise & Care for Your Sustainable Success.
เชี่ยวชาญ ใส่ใจ เพื่อธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนของคุณ