✅ สรุปบทความ:
Inulin เป็นใยอาหารที่ทำหน้าที่เป็น Fat Mimetic — ให้เนื้อสัมผัสคล้ายไขมัน
ช่วยเพิ่มความหนืดและเสถียรภาพในระบบไอศกรีม
ช่วยกระจายไขมันดีขึ้น ลดการรวมตัวใหม่ (re-coalescence)
ชะลอการเติบโตของผลึกน้ำแข็ง ช่วยให้เนื้อเนียนแม้ไม่บ่ม
ใช้ 3–4% ก็ได้ผลดีแล้ว โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Paula’s Spin Technique
ถ้าใช้มากเกินไป ไอศกรีมอาจเหนียว แฉะ ไม่แห้ง และกลิ่นรสบางชนิดอาจแสดงออกน้อยลง
การเติม Inulin ที่ระดับ 3–4% ในไอศกรีม ช่วยให้เนื้อสัมผัสดีขึ้นจนสามารถลดหรือเลิกใช้ขั้นตอนการบ่ม (aging) ได้ในหลายกรณี โดยอาศัยกลไกทางกายภาพ เช่น การเพิ่มความหนืด การสร้างโครงสร้างเจลละเอียด และการควบคุมน้ำอิสระ ซึ่งล้วนส่งผลเชิงบวกต่อเสถียรภาพของระบบไอศกรีม
ในบทความนี้ เราจะอธิบายโดยใช้อินูลินชนิดเดียวกับที่มิสไอศกรีมจำหน่าย (INL) ซึ่งเป็น inulin สเปคเฉพาะที่เหมาะกับการทำไอศกรีม โดยอินูลินที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีหลายประเภทและคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น ระดับความยาวของสายโซ่ฟรุกโตส (degree of polymerization), ความสามารถในการสร้างเจล, ความสามารถในการละลายน้ำ และปริมาณฟรุกโตสอิสระ ซึ่งล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมทางเรโอลอจีและการใช้งานในผลิตภัณฑ์แช่แข็งอย่างไอศกรีม
Inulin เป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ (soluble fiber) ที่มีโครงสร้างเป็นสายโซ่ฟรุกโตส (fructan) ต่อกันยาว เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำและความเข้มข้นพอเหมาะ จะสามารถสร้างโครงสร้างเจลที่มีลักษณะละเอียดและยืดหยุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเจลที่เกิดขึ้นมีคุณสมบัติทางเรโอลอจี (rheology) คล้ายไขมันในแง่ของความหนืด การคงรูปร่าง และการให้สัมผัสนุ่มลื่นในปาก (mouthfeel)
ในระบบของไอศกรีม Inulin ที่ระดับ 3–4% จะสร้างเครือข่ายเจลละเอียดที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นและความต่อเนื่องของโครงสร้าง ทำให้เนื้อไอศกรีมมี body ที่ดีขึ้นและสัมผัสที่แน่นเนียน แม้ใช้ในสูตรไขมันต่ำ โดยทำหน้าที่เลียนแบบคุณสมบัติด้านเนื้อสัมผัสของไขมัน จึงจัดเป็น fat mimetic มากกว่า fat replacer
เมื่อเติมในระดับ 3–4% Inulin จะเพิ่มความหนืดของเฟสของเหลวในระบบไอศกรีมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมการไหล (flow behavior) และการกระจายตัวของส่วนผสมในระดับจุลภาค โดยเฉพาะไขมันและฟองอากาศ ความหนืดที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยชะลอการเคลื่อนที่ของหยดไขมันและฟองอากาศ ลดการรวมตัวใหม่ของไขมัน (re-coalescence) และช่วยรักษาเสถียรภาพของอิมัลชันในระยะสั้นก่อนนำไปแช่เย็น
นอกจากนี้ ความหนืดยังส่งผลต่อการจับตัวของฟองอากาศ (air entrapment) ระหว่างการปั่น ทำให้เกิดโครงสร้างเนื้อที่ฟูและสม่ำเสมอ เจล inulin ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างแทรกกลาง (matrix) ที่ช่วยพยุงไขมันและน้ำไว้ในตำแหน่ง ทำให้โครงสร้างโดยรวมของไอศกรีมมีเสถียรภาพดีขึ้นตั้งแต่ระยะก่อนแช่เย็น จึงลดความจำเป็นของการบ่มซึ่งปกติมีไว้เพื่อสร้างสมดุลโครงสร้างก่อนการปั่น
แม้ Inulin ไม่ได้เป็น emulsifier โดยตรง และไม่มีความสามารถในการลดแรงตึงผิวระหว่างเฟสน้ำกับไขมัน (interfacial tension) แต่โครงสร้างเจลที่ Inulin สร้างขึ้นในระบบ สามารถทำหน้าที่เป็น physical stabilizer ได้บางส่วน โดยทำให้เฟสของเหลวมีความหนืดมากขึ้น ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของหยดไขมันในระบบช้าลง และลดโอกาสในการรวมตัวของหยดไขมัน (coalescence) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบอิมัลชันสูญเสียเสถียรภาพ
นอกจากนี้ เจลของ Inulin ยังช่วยสร้างเครือข่ายสามมิติที่สามารถ 'พยุง' หยดไขมันไว้ในเฟสน้ำ (continuous phase) ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับ emulsifier ตัวหลัก เช่นที่มีอยู่ใน SER หรือ SEP ซึ่งมีบทบาทในการสร้างและคงสภาพอิมัลชันในระดับโมเลกุล การมี Inulin จึงช่วยเสริมเสถียรภาพในเชิงกล (mechanical stability) ให้กับอิมัลชันได้ แม้ไม่ได้เป็นสารลดแรงตึงผิวโดยตรง
การเพิ่มความหนืดของระบบด้วย Inulin ส่งผลต่อพฤติกรรมของน้ำในสูตรไอศกรีมอย่างมีนัยสำคัญ โดย Inulin ทำหน้าที่คล้าย hydrocolloid ในการดักจับและควบคุมการเคลื่อนไหวของน้ำอิสระ (free water) ซึ่งเป็นตัวตั้งต้นในการเจริญเติบโตของผลึกน้ำแข็ง (crystal growth) โดยไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการ nucleation เมื่อของเหลวมีความหนืดสูงขึ้น การเคลื่อนที่ของโมเลกุลน้ำจะช้าลง ส่งผลให้การเกิดผลึกน้ำแข็งช้าลง และมีโอกาสเกิดผลึกขนาดเล็กมากกว่าผลึกขนาดใหญ่
นอกจากนี้ Inulin ยังช่วยควบคุมการกระจายตัวของสารละลายต่าง ๆ ทำให้ความเข้มข้นของสารละลายในระบบมีความสมดุลมากขึ้น และลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลึกไม่สม่ำเสมอในระหว่างการแช่แข็ง ส่งผลต่อการเกิด phase transition ของน้ำในระหว่างการแช่แข็ง โดยลดโอกาสเกิด recrystallization หรือการรวมตัวของผลึกน้ำแข็งขนาดเล็กให้กลายเป็นผลึกใหญ่ระหว่างการจัดเก็บ จึงช่วยให้เนื้อสัมผัสของไอศกรีมคงความเนียนละเอียดแม้ไม่มีการบ่มเบสก่อน
ด้วยผลรวมจากคุณสมบัติด้านเรโอลอจีและการจัดการน้ำ Inulin จึงทำหน้าที่เสริมโครงสร้างในระดับจุลภาคระหว่างการแช่แข็ง ช่วยให้เนื้อสัมผัสของไอศกรีมมีความละเอียดและคงตัวแม้ไม่มีขั้นตอนบ่ม
ผลจากกลไกทั้งหมดข้างต้นชี้ให้เห็นว่า การเติม Inulin ในระดับ 3–4% ส่งผลให้สภาพแวดล้อมของระบบไอศกรีมมีความเสถียรในเชิงกายภาพและจุลภาคมากเพียงพอที่จะลดความจำเป็นของการบ่ม (aging) ซึ่งโดยปกติเป็นขั้นตอนที่ใช้เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของไขมันที่ดีขึ้น การจับตัวของโปรตีน และเสถียรภาพของอิมัลชัน
ในระดับจุลภาค Inulin ที่อยู่ในรูปเจลละเอียดจะทำหน้าที่เป็น rheological modifier ที่ปรับสมดุลแรงภายในระบบ ให้เกิดการกระจายตัวของไขมันและอากาศอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยรองรับแรงเฉือน (shear stress) และลดผลกระทบจากแรงเฉือนต่อโครงสร้างของเบสระหว่างการปั่นหรือแช่เย็น ส่งผลให้โครงสร้างของเบสมีเสถียรภาพเพียงพอแม้ไม่ผ่านการบ่ม
โดยเฉพาะในสูตรไขมันต่ำที่ระบบโดยพื้นฐานมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อยกว่า การใช้ Inulin จึงสามารถชดเชยข้อด้อยเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยิ่งได้ผลดีเมื่อใช้ร่วมกับเทคนิคการปั่นขั้นสูง เช่น Paula's Spin Technique (PST) ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายตัวของไขมันและสร้างอิมัลชันแบบไม่ต้องผ่านกระบวนการ homogenization
Inulin ไม่สามารถทดแทน emulsifier ได้เต็มรูปแบบในสูตรที่มีไขมันสูงหรือไขมันที่ไม่ผ่านการ homogenization
การเลิกบ่มควรทดสอบกับสูตรจริง เนื่องจากผลขึ้นอยู่กับสัดส่วนวัตถุดิบทั้งหมด
Inulin ไม่ได้ช่วยในการตกผลึกไขมันโดยตรง และไม่สามารถใช้แทนการควบคุม crystallization ได้ การบ่ม (aging) มีวัตถุประสงค์หนึ่งเพื่อให้ไขมันเริ่มตกผลึกบางส่วน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่การเกิด partial coalescence ในขั้นตอนการปั่นแช่แข็ง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างโครงสร้างของไอศกรีมในระหว่างการปั่นแช่แข็ง โดยหยดไขมันที่ผ่านการตกผลึกบางส่วนสามารถเกาะกันเป็นเครือข่ายและกักเก็บฟองอากาศได้ดีขึ้น อินนูลินไม่ได้ทำหน้าที่นี้โดยตรง ดังนั้นในสูตรที่ต้องการโครงสร้างจากไขมันเป็นหลัก การบ่ม หรือการใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมจึงยังคงมีความสำคัญ โดยปกติแล้วควรจะมีการเตรียมไขมันให้เริ่มตกผลึกบางส่วน (pre-crystallization) ก่อนนำไปผสมเข้ากับระบบของไอศกรีม เพื่อให้ไขมันอยู่ในสถานะที่เอื้อต่อการเกิด partial coalescence ระหว่างการปั่นแช่แข็ง
งานวิจัยหลายฉบับได้สนับสนุนบทบาทของ Inulin ในการพัฒนาเนื้อสัมผัสและเสถียรภาพของไอศกรีม โดยเฉพาะในสูตรที่ลดหรือไม่มีไขมัน เช่น:
Preparation of fat‑free mulberry ice cream by using inulin and whey protein isolate (WPI) (Saentaweesuk & Chaikham, 2023): งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Dairy Technology โดยเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าสูตรที่ใช้ Inulin ร่วมกับ WPI ที่ระดับ 4% : 4% มีค่า overrun, ความคงตัวในการละลาย และค่าความพึงพอใจทางประสาทสัมผัสที่ใกล้เคียงกับไอศกรีมทั่วไป แม้ไม่มีไขมัน โดยพลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภคอยู่ที่ ~89 kcal และไขมันเพียง 0.06%
Tiwari et al. (2012), International Dairy Journal: รายงานว่า inulin สามารถเพิ่มความหนืดของระบบ เพิ่มค่า overrun และลดอัตราการละลายของไอศกรีมได้ในระดับหนึ่ง โดยผลจะขึ้นกับปริมาณที่ใช้และชนิดของสูตร แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในปริมาณที่สูงเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เนื้อสัมผัสเหนียวหรือแฉะเกินไปในบางกรณี
ผลการศึกษาทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า inulin มีศักยภาพสูงในการพัฒนาไอศกรีมที่มีคุณภาพดี โดยเฉพาะในมิติของโครงสร้าง เนื้อสัมผัส และเสถียรภาพการละลาย แม้ในสูตรที่ไม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก
📞 สนใจเรียนรู้หรือสอบถามเพิ่มเติม:ติดต่อมิสไอศกรีมได้ทุกช่องทาง:
📱 LINE: @missicecream
🌐 เว็บไซต์: https://missicecream.com
📞 โทร: 088-205-8205
📘 Facebook: MISSiCREAM
หน้าที่เข้าชม | 1,154,549 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 มิ.ย. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |