การผลิตไอศกรีมด้วยไนโตรเจนเหลว (Liquid Nitrogen) กลายเป็นแนวทางใหม่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารยุคปัจจุบัน ไนโตรเจนเหลวคือก๊าซไนโตรเจนที่ถูกทำให้เย็นจัดจนกลายเป็นของเหลวที่อุณหภูมิประมาณ -196 องศาเซลเซียส (Kelton et al., 2010) และถูกนำมาใช้ในการผลิตไอศกรีมเพื่อช่วยให้เกิดการแข็งตัวอย่างรวดเร็ว (Flash Freezing) บทความนี้จะอธิบายหลักการ ขั้นตอนการผลิต ข้อดี ข้อจำกัด และเปรียบเทียบกับวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม
การใช้ไนโตรเจนเหลวมีจุดเด่นสำคัญหลายประการ ได้แก่:
การแข็งตัวรวดเร็ว: เกิดการแข็งตัวทันทีเมื่อไนโตรเจนเหลวสัมผัสกับส่วนผสม ช่วยลดขนาดผลึกน้ำแข็ง (microcrystals) อย่างมีประสิทธิภาพ (Goff & Hartel, 2013)
เนื้อสัมผัสเนียนละเอียด: ผลึกน้ำแข็งที่เล็กลงช่วยให้ไอศกรีมมีเนื้อสัมผัสที่ละเอียดนุ่มมากกว่าไอศกรีมที่ผลิตด้วยเครื่องปั่นทั่วไป (Goff & Hartel, 2013)
ลดการใช้สารเติมแต่ง: งานวิจัยพบว่าการใช้ไนโตรเจนเหลวช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารให้ความคงตัว (Stabilizer) และสารอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ลงได้ เนื่องจากการแข็งตัวที่รวดเร็วทำให้เนื้อสัมผัสคงตัวได้โดยธรรมชาติ (DairyReporter, 2025)
รสชาติที่เข้มข้น: ไอศกรีมที่ผลิตด้วยไนโตรเจนเหลวจะมีค่า Overrun ต่ำกว่า ส่งผลให้ได้ไอศกรีมที่เนื้อแน่นและรสชาติเข้มข้น อย่างไรก็ตาม การเสิร์ฟที่อุณหภูมิต่ำกว่าปกติอาจลดการรับรู้รสชาติ เช่น ความหวาน ความเปรี้ยว รวมถึงกลิ่นต่างๆ ได้ เนื่องจากอุณหภูมิต่ำสามารถลดความสามารถในการรับรู้รสชาติบางอย่างได้ (Lipscomb et al., 2016)
แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่การผลิตไอศกรีมด้วยไนโตรเจนเหลวยังมีข้อจำกัดที่ควรพิจารณา ได้แก่:
ต้นทุนสูง: มีค่าใช้จ่ายที่สูงในการจัดหาและดูแลอุปกรณ์ไนโตรเจนเหลว (Koxholt et al., 2001)
ความปลอดภัย: อุณหภูมิที่ต่ำมากของไนโตรเจนเหลวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการสัมผัสหรือสูดดม (Clarke, 2012)
การจัดการที่ยุ่งยาก: ต้องการทักษะเฉพาะและมาตรฐานในการจัดเก็บและใช้งานที่เข้มงวด
ความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์: การควบคุมปริมาณและอุณหภูมิไนโตรเจนเหลวให้แม่นยำเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก หากทำไม่ดีอาจส่งผลให้ไอศกรีมมีเนื้อสัมผัสไม่สม่ำเสมอ (Marshall et al., 2012)
ข้อจำกัดการผลิตจำนวนมาก: ไม่เหมาะสำหรับการผลิตในระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เน้นการผลิตจำนวนมากในเวลาสั้น
ขั้นตอนพื้นฐานในการผลิตไอศกรีมด้วยไนโตรเจนเหลวมีดังนี้:
เตรียมส่วนผสมไอศกรีม (ไอศกรีมมิกซ์) ตามสูตรที่กำหนดไว้
ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันในภาชนะที่ทนความเย็น
ค่อยๆ เทไนโตรเจนเหลวลงไปในส่วนผสม พร้อมทั้งคนส่วนผสมอย่างต่อเนื่อง
ควบคุมปริมาณไนโตรเจนเหลวอย่างระมัดระวังเพื่อให้ไอศกรีมแข็งตัวอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อแข็งตัวดีแล้ว ตักเสิร์ฟทันทีหรือจัดเก็บไว้ที่อุณหภูมิที่เหมาะสม
ไอศกรีมที่ผลิตด้วยไนโตรเจนเหลวมีเนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียดและเข้มข้นกว่าไอศกรีมแบบโฮมเมดอย่างชัดเจน แต่ต้นทุนการผลิตและความยุ่งยากในการจัดการจะสูงกว่า จึงเหมาะกับธุรกิจที่เน้นความพรีเมียมและนวัตกรรม (Goff & Hartel, 2013)
โดยสรุปแล้ว การผลิตไอศกรีมด้วยไนโตรเจนเหลวเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพสินค้า แต่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มสนใจประสบการณ์ใหม่ๆ และคุณภาพที่เหนือกว่า ดังนั้นผู้ประกอบการที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้จะมีโอกาสในการสร้างความแตกต่างและประสบความสำเร็จในระยะยาว
Clarke, C. (2012). The Science of Ice Cream. Royal Society of Chemistry.
Goff, H. D., & Hartel, R. W. (2013). Ice Cream. Springer Science & Business Media.
Kelton, K. F., Greer, A. L., & Thompson, C. V. (2010). Nucleation in Condensed Matter: Applications in Materials and Biology. Elsevier.
Koxholt, M. M. R., Eisenmann, B., & Hinrichs, J. (2001). Effect of the fat globule sizes on the meltdown of ice cream. Journal of Dairy Science, 84(1), 31-37.
DairyReporter. (2025). Liquid nitrogen ice cream: what's next for the premium frozen dessert. Retrieved from www.dairyreporter.com
Lipscomb et al. (2016). Effect of Temperature on the Intensity of Basic Tastes. Retrieved from ResearchGate
หน้าที่เข้าชม | 1,154,549 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 มิ.ย. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |