Soft Serve vs. Hard Pack ไอศกรีมคนละแบบ ใช้สูตรเดียวกันได้ไหม?

หากคุณสนใจคลาสไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ หรือ Soft Cream หรือบางคนก็เรียกว่า ไอศกรีมโยเกิร์ต (Frozen Yogurt) ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ

Soft Serve vs. Hard Pack ไอศกรีมคนละแบบ

ใช้สูตรเดียวกันได้ไหม?

มีคำถามเข้ามาบ่อยมาก... ว่า

“มิสไอศกรีมมีสอนทำไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟไหม?”

คำตอบคือ: เราไม่มีคลาสแยกสำหรับซอฟต์เสิร์ฟค่ะ เลือกเรียนคลาสไอศกรีมโฮมเมดของเราได้เลยนะ

เหตุผลไม่ใช่เพราะขี้เกียจทำหลักสูตรเฉพาะ แต่เพราะจริง ๆ แล้ว "มิกซ์ไอศกรีม" ของซอฟต์เสิร์ฟกับฮาร์ดแพคใช้สูตรเดียวกันได้เลย ไม่จำเป็นต้องเรียนแยก

อยากทำซอฟต์เสิร์ฟเองได้ ต้องเริ่มจากอะไร?

ผู้เรียนที่สนใจทำซอฟต์เสิร์ฟแบบไม่ใช้ผงกึ่งสำเร็จรูป
สามารถเริ่มจาก คลาสไอศกรีมพื้นฐาน (Homemade Ice-cream & Artisan Gelato) ที่ Miss Icecream เปิดสอนอยู่แล้วได้เลยค่ะ

ในคลาส เราจะสอนหลักการผลิตไอศกรีมตั้งแต่พื้นฐาน สอนละเอียดในเรื่องเทคนิคการทำไอศกรีมให้ได้คุณภาพดี รสชาติดี พร้อมให้สูตรที่สามารถนำไปต่อยอดได้ทั้ง Hard Pack, Artisan Gelato และ Soft Serve เพราะหัวใจสำคัญของไอศกรีมทั้ง 3 ประเภทนี้ คือ สูตรพื้นฐานเดียวกัน เพียงแต่ปรับเล็กน้อยตามเครื่องและลักษณะการเสิร์ฟ

ทำความรู้จักไอศกรีม 3 ประเภท

เราสามารถจำแนกไอศกรีมออกเป็น 3 แบบ ตาม “อุณหภูมิที่เสิร์ฟ” ได้ดังนี้:

1. Soft Serve – เสิร์ฟที่ -6°C ถึง -9°C ทานทันที ไม่สามารถเก็บไว้ได้

2. Artisan Gelato – เสิร์ฟที่ -9°C ถึง -14°C เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม รสเข้มข้น

3. Hard Pack – เสิร์ฟที่ -14°C ถึง -18°C ผ่านการแช่แข็ง เก็บได้นาน

ถึงจะแตกต่างเรื่องอุณหภูมิตอนเสิร์ฟ แต่ ขั้นตอนการทำมิกซ์และหลักการรวมถึงส่วนผสมแทบจะเหมือนกันทุกประเภท สิ่งที่ต่างจริง ๆ คือเครื่องที่ใช้ปั่นให้กลายเป็นเนื้อไอศกรีม และวิธีเสิร์ฟที่อุณหภูมิแตกต่างกัน

แล้วสูตรซอฟต์เสิร์ฟกับฮาร์ดแพคต่างกันไหม?

Soft Serve จริง ๆ กำเนิดมาจาก Hard Pack ที่เสิร์ฟทันทีหลังปั่นเสร็จโดยไม่แช่แข็งก่อน

โดยจุดเริ่มต้นของซอฟต์เสิร์ฟเกิดขึ้นในปี 1938 โดยครอบครัว McCullough ที่อเมริกานำไอศกรีมที่เพิ่งปั่นเสร็จมาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้รับประทานโดยไม่แช่แข็งหลังปั่นแบบไอศกรีมฮาร์ดแพคปกติ ซึ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่าและนำไปสู่การก่อตั้งร้าน Dairy Queen ในอีกสองปีต่อมา 

สูตรซอฟต์เสิร์ฟมักมีอะไรที่ปรับจากฮาร์ดแพค?

เมื่อซอฟต์เสิร์ฟมารากฐานมาจากฮาร์ดแพค ในตอนเริ่มแรกสูตรซอฟต์เสิร์ฟและฮาร์ดแพคจึงไม่ต่างกัน แต่ต่อมาเมื่อมีการปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องให้มีการเติมอากาศ (Air Pump) และปรับเรื่องต้นทุน สูตรซอฟต์เสิร์ฟจึงเริ่มมีความแตกต่างจากสูตรฮาร์ดแพค 2 จุดหลัก คือ....

1. มักจะมีไขมันที่ต่ำลง

เพราะซอฟต์เสิร์ฟเสิร์ฟที่อุณหภูมิสูงกว่า ทำให้ได้กลิ่นรสและความครีมมี่ที่ชัดเจนกว่า เราจึงสามารถลดครีมในสูตรลงได้ โดยยังคงความครีมมี่ไว้ — ทำให้ลดต้นทุนได้มาก
และผลิตภัณฑ์ซอฟต์เสิร์ฟหลายแบรนด์ในอเมริกามีการปรับไขมันจนต่ำกว่า 10% ทำให้เรียกว่าเป็น “Ice Cream” ไม่ได้ จึงใช้ชื่อว่า Frozen Yogurt แทนตามข้อกำหนดทางกฏหมายของปริมาณไขมันต่ำสุดในไอศกรีมของอเมริกา

2. น้ำตาลอาจมากขึ้นเล็กน้อยเพื่อปรับไม่ให้จืดเกินไปในเครื่องที่มี Air Pump

ความฟูที่มากขึ้นของเครื่องปั่นที่มีอุปกรณ์เติมอากาศ (Air Pump) ที่เครื่อง Soft Serve ดี ๆ ราคาแพง ๆ มักจะมี โดยวัตถุประสงค์หลักของการเติมอากาศก็เพื่อช่วยทำให้ไอศกรีมฟูและละลายช้า แม้จะต้องเสิร์ฟในขณะที่มีอุณหภูมิสูงกว่าไอศกรีมปกติ โดยความฟูของเนื้อไอศกรีมนี้ส่งผลทำให้ไอศกรีมมีรสชาติหวานลดลง ดังนั้นหากเราอัดอากาศเข้าไปใน Soft Serve มาก ๆ ก็มันจะต้องเพิ่มน้ำตาลเพื่อปรับสมดุลความหวานใหม่

สรุป: ถ้าอยากเรียนเพื่อไปทำซอฟต์เสิร์ฟด้วยตัวเอง?

✅ เริ่มจากคลาสไอศกรีมพื้นฐาน เพื่อเข้าใจโครงสร้างสูตร เทคนิคและวิธีการผลิตให้ได้อร่อยและคุณภาพดี
✅ เลือกซื้อเครื่อง Soft Serve ที่มีประสิทธิภาพดี จะได้ผลิตไอศกรีมที่มีคุณภาพดีได้ ปัญหาน้อย และเมื่อลงมือทำแล้วมีปัญหาอะไรในการปรับสูตรก็ติดต่อสอบถามเรามาได้ แต่ถ้าใครไม่พร้อมที่จะลงทุนเครื่องดี ๆ คุณอาจจะต้องเตรียมใจนิดนึงว่าอาจจะไม่ได้เนื้อไอศกรีมที่ Perfect ดังฝันนะคะ

Tip พิเศษ:
ถ้าใช้ สูตรเบสโยเกิร์ตของ Miss Icecream ที่เป็นสูตรลดไขมันอยู่แล้ว
จะสามารถนำไปใช้กับเครื่องซอฟต์เสิร์ฟได้โดยแทบไม่ต้องปรับสูตร ต้นทุนถูกกว่าเบสนม แถมอร่อย ได้สุขภาพ และเข้ากับผลไม้ได้หลากหลาย

หากคุณสนใจเริ่มต้นธุรกิจซอฟต์เสิร์ฟแบบจริงจัง โดยไม่พึ่งผงกึ่งสำเร็จรูป
เราพร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติม ทั้งในด้านสูตร เทคนิคนะคะ

Miss Icecream
Expertise & Care for Your Sustainable Success.
เชี่ยวชาญ ใส่ใจ เพื่อธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนของคุณ