เลือกมัทฉะให้เหมาะ:
Ceremonial → หอมละมุน ใช้กับ cold infusion
Culinary → เข้มข้น เหมาะกับเบสมัน
ใช้ปริมาณ 20–35 g ต่อเบส 1 kg
มากขึ้นถ้าใช้ cold infusion หรือเบสไขมันสูง
วิธีผสมสำคัญมาก:
ต้อง ร่อนผงมัทฉะ + ตีให้เนียน ก่อนผสม
ถ้าเติมหลังทำเบส → ใช้นมดีที่สุด (3–5%)
ห้ามให้ร้อนเกิน 70 °C
ปัญหาที่พบบ่อย:
✅ สีหม่น → ผงเก่า / ออกซิเดชัน / ความร้อน
✅ ผงลอยด้านบน → ตีไม่เนียน / ไขมันแยก
✅ กลิ่นหาย → เสิร์ฟเย็นจัดเกินไป
ถ้าต้องการรสหอมลึก เนื้อเนียน กลิ่นไม่กลบ
→ ต้องเข้าใจจังหวะผสม และเลือกวัตถุดิบดี
มัทฉะไม่ใช่แค่ชาเขียวทั่วไป แต่มันคือวัฒนธรรม รสชาติ และความประณีตที่บรรจงมาในรูปของผงสีเขียวเข้ม มัทฉะในไอศกรีมจึงไม่ควรถูกลดทอนให้เป็นแค่ “รสชาเขียว” แต่ควรเป็นตัวเอกที่เปล่งประกายในเนื้อไอศกรีมอย่างแท้จริง บทความนี้จะพาไปดูตั้งแต่การเลือกมัทฉะ เทคนิคการชง ไปจนถึงการผสมลงในสูตรให้ได้รสที่กลมกล่อม ไม่หาย ไม่ขม ไม่จาง
มัทฉะในท้องตลาดมีหลายเกรด ซึ่งแบ่งอย่างกว้างๆ ได้เป็นสองประเภทหลัก:
เกรดสำหรับพิธีชงชา (Ceremonial Grade): ใช้ชงดื่มโดยตรง สีเขียวสด รสนุ่ม กลิ่นหอมหวานตามธรรมชาติ ไม่ขมฝาด เหมาะกับการชงแบบ traditional และเหมาะกับสูตรไอศกรีมแบบ cold infusion หรือสูตรที่ต้องการโชว์รสมัทฉะแบบละเอียดอ่อน
เกรดสำหรับทำอาหาร (Culinary Grade): ใช้ผสมในขนมและเครื่องดื่ม สีเข้มกว่า รสเข้มข้นและขมเล็กน้อย เพื่อให้รสของมัทฉะเด่นแม้ใช้ในปริมาณน้อย เหมาะกับสูตรที่มีไขมันสูงหรือเบสที่มีกลิ่นแรง
การรู้จักเกรดช่วยให้ผู้บริโภคเลือกใช้มัทฉะให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ — ทั้งด้านรสชาติ งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ต้องการ
ใช้ 20–35 กรัม ต่อเบส 1 กิโลกรัม แล้วแต่ความเข้มที่ต้องการและเกรดของมัทฉะที่ใช้
หากใช้มัทฉะเกรดดีที่ไม่ขมจัดอย่าง ผงมัทฉะ Uji ของเรา คุณสามารถเพิ่มปริมาณไปที่ 30-35 g ได้อย่างมั่นใจเพื่อรสชาติที่เข้มข้น
หากใช้มัทฉะเกรดกลางหรือมัทฉะที่มีรสขมเด่น แนะนำให้เริ่มที่ 20–25 g แล้วปรับตามการชิม เพราะมัทฉะเกรดกลางมักมีปริมาณสาร catechins (เช่น EGCG) สูง ซึ่งให้รสขมและฝาดชัดเจน หากใช้มากเกินไปจะกลบรสอื่นในสูตร และอาจทำให้เกิดรสขมปลายลิ้น นอกจากนี้ สีของมัทฉะเกรดกลางมักทึบและหม่นกว่าจึงควรระวังไม่ให้ใส่มากเกินจนสีของไอศกรีมดูไม่สวย การเริ่มจากปริมาณต่ำแล้วชิมก่อนปรับจึงเป็นแนวทางที่ปลอดภัยที่สุด
สูตรที่มีไขมันและความหวานสูง (เช่น มีครีมและน้ำตาลในปริมาณมาก) อาจต้องเพิ่มปริมาณมัทฉะ เพื่อให้รสชาเขียวไม่ถูกกลบด้วยความมันและความหวานของเบส โดยเฉพาะในสูตรที่ใช้ไขมันรวมมากกว่า 7% ควรใช้มัทฉะในช่วงบนของปริมาณที่แนะนำ เช่น 30–35 g ต่อเบส 1 kg
หากใช้เทคนิค Cold infusion (ตีมัทฉะกับของเหลวที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 °C เช่น ครีมหรือนมเย็น) ควรใช้มัทฉะในปริมาณมากขึ้น โดยเฉลี่ยประมาณ 30–35 g ต่อเบส 1 กิโลกรัม เพราะไม่มีความร้อนช่วยดึงกลิ่นรสออกมาได้เต็มที่
หากใช้เทคนิค Hot infusion (ละลายมัทฉะในของเหลวที่อุณหภูมิ 55–65 °C) สามารถใช้มัทฉะในช่วง 25–30 g ต่อเบส 1 กิโลกรัม เพราะความร้อนระดับนี้ช่วยให้ผงมัทฉะละลายดี กระจายตัวสม่ำเสมอ และปลดปล่อยกลิ่นรสได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้เกิดรสขมไหม้
ใช้น้ำหรือของเหลวเย็นจัด เช่น ครีม หรือนมเย็น ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30°C
ตีมัทฉะให้แตกตัวในของเหลวเย็นก่อนเติมลงในเบส เพื่อให้กระจายตัวได้ดี
เหมาะกับการใส่มัทฉะหลังจากที่เบสเย็นลงแล้ว เพื่อรักษากลิ่นหอมสดและป้องกันการสูญเสียสารหอมระเหยที่ไวต่อความร้อน
ผสมมัทฉะกับของเหลวอุ่น (55–65 °C) แล้วใช้เครื่องปั่นความเร็วต่ำให้ละลายดี
ห้ามเกิน 70 °C เพราะมัทฉะจะมีกลิ่นไหม้และรสขมแหลม
เทคนิคนี้เหมาะกับสูตรที่ต้องการพาสเจอร์ไรส์เบสทั้งหมด
แม้มัทฉะจะเป็นวัตถุดิบที่ดูเรียบง่าย แต่ในการทำไอศกรีมกลับแฝงด้วยปัจจัยที่ต้องควบคุมอย่างพิถีพิถัน หากไม่ระวัง อาจเจอปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ได้:
รสขมจัด / กลิ่นชาไหม้
ใช้มัทฉะมากเกิน หรือใช้เกรดต่ำ
ให้ความร้อนสูงเกิน 70 °C ระหว่าง infusion
สีตุ่น / เขียวหม่น
มัทฉะเก่า หรือเก็บไม่ดีโดนแสงและอากาศ → สีเปลี่ยนเป็นสีเขียวขี้ม้า
ให้ความร้อนกับผงมัทฉะเกิน 70°C → คลอโรฟิลล์เสื่อม สีเปลี่ยนเป็นเขียวตุ่นหรือออกน้ำตาล
สัมผัสอากาศมากเกินไประหว่างชั่ง ตี หรือผสม → เกิดออกซิเดชัน ทำให้สีเขียวซีดลง กลายเป็นสีเขียวตุ่นหรือหม่นคล้ำจากการสลายของคลอโรฟิลล์
ผงมัทฉะแยกตัว / ลอยบนผิวถาด
ลักษณะที่พบคือสีเขียวเข้มกระจุกอยู่ด้านบนผิวถาด ขณะที่ชั้นล่างสีอ่อนกว่า เหมือนมัทฉะลอยตัวแยกชั้น
มักเกิดจากตีมัทฉะไม่เนียน หรือไม่ได้กรองก่อนใช้ ทำให้ผงรวมตัวกันลอยขึ้น
อาจเกิดร่วมกับกรณีที่เบสเย็นเกินไป หรือไม่ได้ปั่นให้กระจายตัวทั่วถึงหลังเติมมัทฉะ โดยเฉพาะในสูตรที่ใช้ cold infusion
หากเบสมีไขมันสูง และไม่มีการ homogenize หรือใช้ Paula’s Spin Technique → ฟิล์มไขมันอาจพาผงมัทฉะลอยขึ้นมารวมกันด้านบน
ผสมตอนเบสเย็นจัด หรือไม่มีการ homogenize
รสจาง / กลิ่นชาไม่เด่น
ใช้มัทฉะน้อยเกินไป หรือใช้เกรดที่กลิ่นไม่พุ่ง
เบสไขมันสูง / หวานเกิน ทำให้กลบรส
กลิ่นหายหลังใช้ไประยะหนึ่ง / กลิ่นหายตอนเสิร์ฟ
ผงมัทฉะเสื่อมกลิ่นเพราะสัมผัสอากาศและแสง
เปิดผงทิ้งไว้นานก่อนใช้ หรือเปิด-ปิดภาชนะบ่อย
หากอุณหภูมิในการเสิร์ฟต่ำกว่าปกติ (เช่น เสิร์ฟเมื่อแข็งจัดเกินไป) กลิ่นของมัทฉะจะไม่ระเหยออกมาชัดเจน ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่ากลิ่นหาย ทั้งที่ในสูตรมีปริมาณมัทฉะเพียงพอแล้ว ควรเสิร์ฟไอศกรีมในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม (เช่น -12 ถึง -14°C สำหรับเจลาโต้)
เนื้อหยาบ / ไม่เนียน
ผงมัทฉะไม่ละลายดี หรือจับตัวเพราะความชื้น
ไม่กรองหลังตี หรือผสมตอนเบสเย็นเกินไป
รสไม่เสถียรระหว่างรอบผลิต
มัทฉะแต่ละล็อตกลิ่นต่างกัน → ต้องชิมและปรับทุกครั้ง
อัตราส่วนไขมัน/น้ำตาลไม่คงที่
การรู้ทันปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่ต้น ช่วยให้สามารถป้องกันและควบคุมคุณภาพของไอศกรีมรสมัทฉะให้คงเส้นคงวาและกลมกล่อมได้ในทุกๆ รอบการผลิต
หลีกเลี่ยง pH ต่ำ เช่น การใส่มัทฉะร่วมกับน้ำผลไม้เปรี้ยว
ถ้ามัทฉะจับตัวเป็นเม็ด → ให้ร่อนผงมัทฉะผ่านตะแกรงละเอียดก่อนนำไปละลายหรือตีในของเหลว
ความชื้นของผงมัทฉะมีผลอย่างมากต่อเนื้อสัมผัสและสีของไอศกรีม: หากผงมัทฉะดูดความชื้นจากอากาศมากเกินไป ผงจะจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ละลายได้ยากและกระจายตัวไม่ดีในเบส ส่งผลให้เนื้อไอศกรีมเกิดจุดคล้ำ สีไม่สม่ำเสมอ หรือมีเนื้อสัมผัสหยาบเป็นเม็ดเล็กๆ ไม่เรียบเนียนอย่างที่ควร นอกจากนี้ ความชื้นยังทำให้สีของมัทฉะหม่นลง จากเขียวสดกลายเป็นเขียวตุ่นหรือออกเหลือง และกลิ่นหอมก็จะลดลงด้วย จึงควรเก็บมัทฉะในภาชนะที่ปิดสนิท ไม่ให้สัมผัสอากาศ และควรร่อนผ่านตะแกรงก่อนใช้งานทุกครั้งเพื่อความแน่นอนในการผสม
ระวังไม่ให้ใช้ไขมันมากจนกลบรสมัทฉะ โดยเฉพาะเมื่อใช้มัทฉะเกรดดีที่มีรสและกลิ่นละเอียดอ่อน โดยในสูตรเรียนจากมิสไอศกรีม แนะนำให้ใช้เบสนมที่มีไขมันรวมประมาณ 7% ของน้ำหนักเบส ซึ่งเหมาะสำหรับเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม และเปิดทางให้รสมัทฉะชัดเจน
หากต้องการความครีมมี่มากขึ้น เช่นในสูตรพรีเมียมหรือสำหรับลูกค้าที่ชอบสัมผัสแน่นและมัน อาจใช้เบสนมใหม่ที่มีไขมันถึง 10% ได้ แต่ควรปรับสูตรดังนี้:
เพิ่มปริมาณมัทฉะเป็น 30–35 g ต่อเบส 1 kg เพื่อชดเชยความเข้มของไขมัน
เลือกใช้มัทฉะเกรดดี เพื่อให้รสไม่ถูกกลบ
เป้าหมายคือการรักษาสมดุลระหว่าง “ความหอมมัน” และ “รสชัดของมัทฉะ” โดยพิจารณาจากองค์ประกอบของสูตรทั้งหมดร่วมกัน
การนำมัทฉะมาผสมในไอศกรีมหรืออาร์ติซานเจลาโต้นั้น ไม่ควรใส่มัทฉะลงไปตรงๆ โดยไม่เตรียมตัวล่วงหน้า เพราะจะทำให้เกิดการจับตัวเป็นเม็ด ไม่กระจายตัว และเสียรสชาติดั้งเดิมของมัทฉะ
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่สามารถวางแผนการผสมมัทฉะตั้งแต่ต้น เพราะทำให้ควบคุมคุณภาพได้ง่ายกว่า และสามารถใช้ความร้อนหรือจังหวะของการปั่นช่วยละลายมัทฉะได้เต็มประสิทธิภาพ จึงให้รสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นที่กลมกล่อมมากกว่าการเติมในภายหลัง
ร่อนผงมัทฉะ ผ่านตะแกรงละเอียด (60–100 mesh) เพื่อให้เนียน ไม่จับเป็นก้อน
เลือกเทคนิค infusion:
ถ้าใช้ Hot infusion → สามารถละลายมัทฉะพร้อมส่วนผสมแห้งอื่นๆ ได้เลยในขั้นตอนให้ความร้อน โดยควรให้อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 55–65 °C ไม่เกิน 70 °C เพื่อรักษากลิ่นรส และหลังจากเติมผงมัทฉะแล้ว จะต้องไม่มีขั้นตอนการให้ความร้อนกับส่วนผสมเกิน 70 °C ทั้งนี้ วิธีนี้เหมาะกับการใช้ร่วมกับเทคนิค Paula’s Spin Technique ที่จะช่วยสร้างอิมัลชันที่มั่นคง ซึ่งจะยิ่งช่วยให้เนื้อไอศกรีมเนียนสวยมากขึ้น
หากเลือกวิธี Cold Infusion → รอให้เบสเย็นลงจนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 °C ก่อน จากนั้นตีมัทฉะกับของเหลวจากสูตร เช่น นมหรือครีมเย็น ที่แบ่งไว้ประมาณ 5–8 เท่าของน้ำหนักมัทฉะให้เนียนละเอียด แล้วจึงเติมกลับลงในเบส วิธีนี้เหมาะกับเบสที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์แล้วและต้องการเติมมัทฉะภายหลังเพื่อรักษากลิ่นหอมธรรมชาติของชา หลังจากเติมผงมัทฉะแล้ว ควรตีหรือปั่นด้วย blender ด้วยความแรงปานกลางจนเนียนสม่ำเสมอ
กรอง (ถ้าจำเป็น): หากยังมีจุดผงหรือฟองมาก อาจกรองผ่านตะแกรงอีกครั้งก่อนเติมกลับเบส
ร่อนผงมัทฉะ เป็นขั้นตอนสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ผงมัทฉะกระจายตัวได้ดี ไม่จับเป็นก้อนเมื่อผสมกับของเหลว และช่วยให้ละลายง่ายขึ้นในขั้นตอนต่อไป โดยเฉพาะหากใช้ของเหลวในปริมาณน้อยหรือใช้วิธี cold infusion
เลือกของเหลวที่เหมาะสม (นอกสูตร):
นมสด: แนะนำที่สุด ให้ใช้ประมาณ 3–5% ของน้ำหนักเบส
น้ำสะอาด: ใช้ได้แต่ต้องจำกัดไม่เกิน 2–3% ของน้ำหนักเบส เพื่อไม่ให้สูตรเจือจาง หากจำเป็นต้องใช้มากกว่านี้ ควรพิจารณาเพิ่มปริมาณผงมัทฉะในสูตรเล็กน้อย (ประมาณ 1–2 g ต่อเบส 1 kg) เพื่อรักษาความเข้มของรสมัทฉะให้ชัดเจนเช่นเดิม
เลือกเทคนิค infusion:
Cold infusion → ใช้ของเหลวที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 °C
Hot infusion → อุ่นของเหลวที่ 55–65 °C แล้วผสมมัทฉะให้เนียน (ระวังไม่ให้เกิน 70 °C)
ตีผงมัทฉะให้เนียน ด้วย hand blender หรือเครื่องปั่นความเร็วปานกลาง
กรองอีกครั้ง หากจำเป็น เพื่อให้ได้เนื้อเนียนสม่ำเสมอ
เติมกลับลงในเบส และกวนให้เข้ากันอย่างสม่ำเสมอ
ชิมและปรับรส: หลังจากเติมมัทฉะ ควรมีขั้นตอนการชิมเพื่อประเมินรสชาติ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเพิ่มมัทฉะในปริมาณมาก หรือมีการใช้ของเหลวละลายมัทฉะนอกสูตร ซึ่งอาจทำให้รสขมชัดหรือรสหวานลดลง หากจำเป็น สามารถเติมน้ำเชื่อม (simple syrup) เพื่อปรับรสให้สมดุล โดยเติมทีละน้อยและต้องคำนึงถึงผลต่อ total solids และ freezing point ด้วย
ผงมัทฉะไวต่อแสง อากาศ และความชื้น จึงควรเก็บในภาชนะสุญญากาศหรือซองฟอยล์ซ้อนหลายชั้น
แนะนำให้เก็บในตู้เย็นในส่วนที่อุณหภูมิคงที่ ไม่ติดขอบประตู และไม่เปิด-ปิดบ่อย
หลังเปิดใช้ ควรใช้ให้หมดภายใน 30 วัน เพื่อป้องกันกลิ่นจางและสีหม่น
ห้ามใช้ช้อนเปียกหรือช้อนร้อนตัก เพราะจะเร่งการเสื่อมคุณภาพของผงมัทฉะ
สีเขียวสดอมเหลือง ไม่เขียวจัดหรือเขียวสดแบบสีผสมอาหาร
กลิ่นหอมละมุนคล้ายหญ้าตัดสด ไม่มีกลิ่นเหมือนหญ้าแห้งหรือกลิ่นอับ
เนื้อผงละเอียดมาก ไม่สาก ไม่หยาบ ไม่เป็นเกล็ด
ราคามีผลต่อคุณภาพอย่างชัดเจน — มัทฉะคุณภาพดีในระดับเหมาะสมกับไอศกรีมมักอยู่ในกลุ่ม Premium Culinary Grade หรือ Ceremonial Grade ล่าง
ราคาวัตถุดิบสูง → ต้องวางแผนต้นทุนต่อชิ้นให้ดี โดยเฉพาะถ้าจะใช้มัทฉะแท้ในปริมาณ 25–35 g/เบส 1 kg
สีเขียวของมัทฉะจะซีดลงเมื่อแช่แข็งนาน หรือสัมผัสกับแสงโดยตรง ควรบรรจุในถ้วยทึบแสงหรือผลิตสดเป็นรอบเล็ก
ผู้บริโภคจำนวนมากเข้าใจว่า “มัทฉะ = ชาเขียวทั่วไป” → จึงควรมีการสื่อสารผ่านชื่อสินค้า คำอธิบาย หรือสตอรี่ที่ช่วยย้ำว่ารสนี้คือมัทฉะแท้
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจกำลังมองหาผงมัทฉะที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่กลิ่น สี และความสามารถในการละลายในสูตรไอศกรีมอย่างแท้จริง
ผงมัทฉะ Uji เกรดสำหรับทำอาหาร (Culinary Grade) อย่างดี ที่นำเข้าโดยตรงจากญี่ปุ่น ถูกคัดมาให้เหมาะกับไอศกรีมในราคาที่สมเหตุสมผล
สีเขียวสวยธรรมชาติ ไม่ต้องแต่งสี
กลิ่นหอมลึก มีมิติแบบใบชาสด ไม่มีกลิ่นมะลิหรือกลิ่นชาแก่ ไม่อับ ไม่แบน และไม่กลืนไปกับกลิ่นเบสเหมือนมัทฉะเกรดกลางทั่วไป
เหมาะกับทั้ง cold และ hot infusion ใช้แล้วละลายง่าย ให้เนื้อเนียนสม่ำเสมอ
เหมาะกับทั้งไอศกรีม เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม
หากคุณสนใจลองใช้ในสูตรของตัวเอง หรืออยากปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกมัทฉะให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ 📦 ติดต่อได้ที่ Line ID: @missicecream
การเลือกมัทฉะดีไม่พอ ต้องเข้าใจจังหวะและวิธีการผสมที่เหมาะสม โดยเฉพาะการควบคุมอุณหภูมิและเลือกของเหลวในการละลายให้สอดคล้องกับเบส เพื่อให้มัทฉะกระจายตัวได้สมบูรณ์ รสไม่ขาด กลิ่นไม่จาง และได้เนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียด ไอศกรีมมัทฉะที่ดีต้องหอมลึก เขียวสด รสกลมกล่อม และไม่ทิ้งรสขมไหม้ — นั่นแหละคือรสแท้ที่เราตามหา
ถ้าคุณกำลังทดลองทำไอศกรีมมัทฉะ และอยากให้รสชาติออกมาลึก หอม สดแบบที่คนกินแล้วจำได้ — ผงมัทฉะที่เลือกใช้มีผลมากกว่าที่คิด
ที่ Miss Icecream เราคัดเลือก ผงมัทฉะ Uji เกรดพรีเมียม จากญี่ปุ่นโดยตรง
กลิ่นหอมมีมิติ ไม่กลืนไปกับเบส สีเขียวสดแบบธรรมชาติ และละลายง่ายในสูตรไอศกรีม
สำคัญคือ… ราคาไม่แรง อย่างที่หลายคนเข้าใจ — เพราะเราเข้าใจคนทำไอศกรีมอย่างแท้จริง
หากคุณอยากลองใช้ในสูตรของตัวเอง หรือแค่ลองคุยขอคำแนะนำก่อนก็ยินดีค่ะ
📦 ติดต่อเราได้ที่ LINE: @missicecream | โทร 088-205-8205 | missicecream.com
หน้าที่เข้าชม | 1,154,554 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 มิ.ย. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |